บทความ

รูปภาพ
ภูมิปัญญาไทยด้านที่อยู่อาศัย ลักษณะบ้านภาคใต้ ที่อยู่อาศัย  จะตั้งบ้านเรือนอยู่ใกล้แหล่งน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค ใกล้ท่าน้ำ ลำคลอง อ่าว  และทะเล เพื่อสะดวกในการสัญจรและการทำมาหากิน คนไทยภาคใต้จะมีคติในการตั้งบ้านเรือน เช่น  ปลูกบ้านโดยมีตีนเสารองรับเสาเรือนแทนการขุดหลุมฝังเสา เพื่อสะดวกในการโยกย้ายและเป็นการ ป้องกันมด ปลวก มีคติห้ามปลูกเรือนขวางตะวัน เพราะจะขวางเส้นทางลมมรสุมซึ่งอาจทำให้หลังคา  ปลิวและถูกพายุพัดพังได้ง่าย วัสดุที่นำมาสร้างคือสิ่งที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น บ้านเรือนมีหลายลักษณะ  มีทั้งบ้านเรือนเครื่องผูก หลังคาทรงจั่วและทรงปั้นหยา มีใต้ถุนเตี้ยเพราะมีลมพายุเกือบทั้งปี  หากปลูกเรือนสูงอาจต้านทานแรงลม ทำให้เรือนเสียหายได้   ลักษณะทั่วไป        เรือนส่วนใหญ่จะวางเสาไว้บนตอหม้อตีนเสาซึ่งจะก่ออิฐฉาบปูนเมื่อต้องการจะทำการย้ายบ้านก็จะ ปลดกระเบื้องลงตีไม้ยึดโครงสร้างเสาเป็นรูปกากบาทแล้วใช้คนหามย้ายไปตั้งในที่ที่ต้องการนำกระเบื้องขึ้นมุงใหม่ ส่วนใหญ่จะใช้ไม้ในการก่อสร้างรูปทรงขอ...
รูปภาพ
ภูมิปัญญาไทยด้านที่อยู่อาศัย ลักษณะบ้าน ภาคอีสาน เรือนไทยภาคอีสาน เป็นหนึ่งในเรือนไทย 4 ภาคของไทย แบ่งออกได้เป็นการปลูกเรือนในลักษณะชั่ว คราว กึ่งถาวร หรือเรือนถาวรประเภทของเรือนอีสาน เอกลักษณ์ของเรือนไทยภาคอีสาน       มีลักษณะเด่นอยู่ 3 ประเภท คือ ไม่นิยมทำหน้าต่างทางด้านหลังตัวเรือน ถ้าจะทำจะเจาะเป็นช่องเล็กๆ พอให้ยี่นศีรษะออกไปได้เท่า นั้น ไม่นิยมต่อยอดป้านลมให้สูงขึ้นไป เหมือนเรือนของชาวไทยล้านนาที่เรียกว่า 'กาแล' ไม่นิยมตั้งเสาเรือนบนตอม่อ เหมือนเรือนของชาวไทยมุสลิมทางภาคใต้ ด้วยเหตุที่ชาวไทยภาค อีสานปลูกเรือนด้วยการฝังเสา จึงไม่มีการตั้งบนตอม่
รูปภาพ
ภูมิปัญญาไทยด้านที่อยู่อาศัย ลักษณะบ้านภาคกลาง  บ้านทรงไทยนับว่าเป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทย ที่ได้คิดสร้างที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับสภาพภูมิประ เทศ ภูมิอากาศ และประโยชน์ใช้สอย คือ เป็นเรือนยกพื้นสูง เพื่อป้องกันน้ำท่วมตัวเรือน เพราะในปลายฤดู ฝนจะมีน้ำป่าไหลหลากจากทางเหนือ มาท่วมพื้นที่ลุ่มในภาคกลาง หากมีลมพายุก็สามารถพัดผ่านใต้ถุน เรือนไปได้ ใต้ถุนเรือน สามารถใช้เป็นสถานที่ทอผ้า ตำข้าว เก็บของ ส่วนหลังคาที่สูงและลาดชันก็เหมาะ กับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว และมีฝนตกชุกของภาคกลาง เพราะทำให้อากาศร้อนจากภายนอกถ่ายเทมา ยังห้องได้ช้า และทำให้ฝนไหลลงอย่างรวดเร็ว รอบตัวเรือนมีชายคายื่นยาว เพื่อป้องกันกันฝนสาด และ แสงแดด การสร้างบ้านยังคำนึงเรื่องทิศทางของการระบายลม และระบายความร้อน โดยลมประจำที่พัดผ่าน เรียกว่า  ลมว่าว หรือลมตะเภา  พัดจากทิศใต้ไปทิศเหนือ การวางตัวเรือนจึงต้องหันทางทิศใต้ หรือทิศเหนือ เพื่อให้ลมพัดผ่าน  เอกลักษณ์อีกอย่างของเรือนไทย คือมีชานบ้านซึ่งเป็นที่โล่งกลางบ้าน ซึ่งมีประโยชน์ เช่น เป็นที่พัก หย่อนใจของคนในครอบครัว นั่งทำงาน รับรองแขก และกา...
รูปภาพ
ภูมิปัญญาไทยด้านที่อยู่อาศัย ลักษณะบ้านทางภาคเหนือ เรือนไทยภาคเหนือ เป็นเรือนยกใต้ถุนสูง คล้ายเรือนไทยภาคกลาง แต่มีลักษณะอื่นๆ แตกต่างกันมาก เพราะดินฟ้าอากาศ ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนกัน ฤดูหนาวหนาวกว่าภาคกลางมาก ทำให้ลักษณะเฉพาะทางรูปทรงหลังคา และสัดส่วนของเรือนเตี้ยคลุ่มมากกว่า เจาะช่องหน้าต่างแคบๆ เล็กๆ กันลมหนาว การจัดกลุ่มอาคาร และการวางแปลนห้องต่างๆ มีความสมดุลแบบสองข้างไม่เหมือนกัน และเชื่อมต่อเรือนเหล่านั้นด้วยชานอย่างหลวมๆ เรือนทุกรูปแบบมีความกลมกลืนกับธรรมชาติ และมีคุณค่าทางศิลปะด้านสถาปัตยกรรมอย่างดียิ่ง เราจะพบเรือนทางภาคเหนือ ในลักษณะใหญ่ๆ ได้ ๒ แบบ คือ เรือนไทยดั้งเดิมและเรือนพื้นบ้าน เรือนไทยดั้งเดิม เป็นเรือนไทยยกใต้ถุน สูง หลังคาทรงจั่ว นิยมทำหลังคาแฝดติดกัน มีรางน้ำตรงกลาง ข้างบนสุดของหลังคา ทำไม้ไขว้แกะสลัก เรียกว่า  "กาแล"  เพื่อตกแต่งให้เกิดความงาม และเป็นคติความเชื่อถือเกี่ยวกับโชคลาง และการบูชา ลักษณะรูปทรงเป็นแบบฝาล้ม ผายออก เป็นศิลปะ และวัฒนธรรมแบบล้านนาไทยดั้งเดิม (ตรงข้ามกับเรือนไทยภาคกลาง ที่ฝาล้มสอบเข้า) ...
รูปภาพ
           ภูมิปัญญาไทยด้านอุตสาหกรรมและหัตถกรรม โรง สีข้าวชุมชน โรงสีข้าวชุมชนคลองสิบสี่ ได้เริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.  2543  โดยความคิดริเริ่มของ   นายเทเวศน์ ทองศรี ผู้อำนวยการเขตหนองจอก   โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ชุมชนมีโรงสีข้าวเพื่อให้ชุมชนผลิตข้าวกินเอง โดยการก่อตั้งใช้เงินงบประมาณจาก สก/สข และได้ที่ดินจากนายเวก ศรอุบล จำนวน  1  ไร่   เป็นที่ตั้งโรงสีข้าวชุมชนในการดำเนินการของโรงสีข้าวชุมชน   ทางโรงสีได้ผลิตเมล็ดข้าวพันธุ์ดีปทุมธานี  1  โดยมีเจ้าหน้าที่จากสถานีทดลองข้าว   คลอง  16  มาให้คำแนะนำและให้พันธุ์ข้าว รวมทั้งให้ความช่วยเหลือในทุกขั้นตอน
รูปภาพ
ภูมิปัญญาไทยด้านอุตสาหกรรมและหัตถกรรม การสลักไม้  บ้านหลุก ตั้งอยู่ที่ ตำบลนาครัว อยู่ห่างที่ว่าการอำเภอแม่ทะไปประมาณ 2 กิโลเมตร ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพแกะสลักไม้ ซึ่งไม้ที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นไม้ฉำฉาและจามจุรี ผลิตภัณฑ์ที่แกะเป็นรูปสัตว์ต่างๆ เช่น ช้าง ม้า สิงโต  กวาง ฯลฯ ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เป็นอุตสาหกรรมครอบครัวที่ได้รับการถ่ายทอดสืบต่อกันมา ซึ่งที่นี่มีประวัติการก่อตั้งยาวนานมากว่าสิบปีแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ยังไม่มีประวัติที่แน่นอน แต่เมื่อปี พ.ศ. 2535 ได้เริ่มมีการจัดตั้งให้เป็นกลุ่มขึ้น โดยนายจันดี แก้วชุ่ม มาได้ภรรยาเป็นคนบ้านหลุก อ.เมือง มีความรู้ทางด้านแกะสลักไม้ และได้เข้ามาสอนพวกชาวบ้าน จนมีความรู้ความชำนาญ โดยรวมกลุ่มกันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ประมาณ 50 กลุ่ม ทำการแกะสลักไม้ สภาพการรวมตัวของกลุ่มชาวบ้านมี 1 กลุ่มใหญ่ โดยมีสาขาย่อยอีกจำนวน 40 กลุ่ม แต่ละกลุ่มย่อยจะมีประธานกลุ่มย่อยเป็นผู้บริหารกลุ่ม มีประธานกลุ่มใหญ่และกรรมการบริหารกลุ่มใหญ่อีก 1 คณะ ผลิตภัณฑ์จากการแกะสลักไม้ของชาวบ้านบ้านหลุกมีหลากหลายและสวยงามปัจจุบันได้มีชื่อเสียงไปถึงต่างประเทศ มีสินค้าส่งออกต่...
รูปภาพ
ภูมิปัญญาไทยด้านอุตสาหกรรมและหัตถกรรม ผลิตภํณฑ์กระดาษสา    ผลิตภํณฑ์กระดาษสา  เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัสดุจากธรรมชาติแต่ละท้องถิ่นนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์มีความแตกต่างกันในคุณภาพและวัสดุที่นำมาผลิต จังหวัดลำปางมีหลายแห่งเช่น กระดาษสาที่ทำจากใยสับปะรดบ้านเสด็จ อำเภอเมือง กระดาษสาที่ทำมาจากมูลช้างที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย อำเภอห้างฉัตรและกระดาษสาที่ทำมาจากปอสาดั้งเดิมบ้านท่าล้อ อำเภอห้างฉัตร ซึ่งเราอยากนำทุกท่านมาชมผลิตภัณฑ์อันสวยงาม น่ารัก เหล่านี้ “ผลิตภัณฑ์จากกระดาษสา” ซึ่งผลิตภัณฑ์จากกระดาษสานี้จะผลิตกันที่บ้านท่าล้อ ตำบลบ่อแฮ้ว อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ซึ่งในหมู่บ้านนี้ส่วนใหญ่แล้วชาวบ้านจะนิยมทำกระดาษสากัน เรียกได้ว่าทำกันตั้งแต่ในครัวเรือนจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เลยทีเดียว ชาวบ้านท่าล้อได้ผลิตกระดาษสามาเป็นเวลานานกว่า 100 ปีแล้ว “ คนชนบททางภาคเหนือของไทยรู้จักการนำเอาต้นสามาผลิตเป็นกระดาษนานมากแล้ว เนื่องจากสมัยก่อนยังไม่มีกระดาษชนิดอื่นเหมือนอย่างในสมัยปัจจุบัน คนจึงนิยมใช้กระดาษสาอย่างแพร่หลาย โดยนำมาใช้เขียนหนังสือ ทำไส้เทียน โคมไฟ และทำตุง(ธง) เ...